สารบัญ
10 อันดับ เครื่องวัดอุณหภูมิ ยี่ห้อไหนดี
1.เครื่องวัดอุณหภูมิ GLOWY รุ่น ET-203
2. เครื่องวัดอุณหภูมิ Yuwell รุ่น YT-2
3. เครื่องวัดอุณหภูมิ Beurer รุ่น FT 65
4. เครื่องวัดอุณหภูมิ OMRON รุ่น TH-839S
5. เครื่องวัดอุณหภูมิ ALLWELL รุ่น E122
6. เครื่องวัดอุณหภูมิ GLOWY (ET 201)
7. เครื่องวัดอุณหภูมิ ไมโครไลฟ์ รุ่น NC 150 BT
8. เครื่องวัดอุณหภูมิ Simple Health
9. เครื่องวัดอุณหภูมิ Bluedot รุ่น B-FT102 BT
10. เครื่องวัดอุณหภูมิ Cofoe 4 in 1 Ea & Forehead
10 อันดับ เครื่องวัดอุณหภูมิ ยี่ห้อไหนดี

1. เครื่องวัดอุณหภูมิ GLOWY รุ่น ET-203
- เปลี่ยนโหมดวัดทางหน้าผาก-หู อัตโนมัติเมื่อใส่-ถอดหัวครอบแม่เหล็ก
- มีโหมดสำหรับวัดอุณหภูมิเด็กโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
- เทอร์โมมิเตอร์แบบ 3 in 1 โดยสามารถวัดอุณหภูมิร่างกายทางหน้าผาก ทางหู และวัดอุณหภูมิวัตถุ
- ตรวจวัดอุณหภูมิและแสดงผลภายใน 1 วินาที
- ช่วยแปลผลอุณหภูมิที่วัดได้ให้เข้าใจได้ โดยแสดงผลผ่านสีของหน้าจอและเสียงเตือน

2. เครื่องวัดอุณหภูมิ Yuwell รุ่น YT-2
- หน้าจอแสดงข้อความ "Lo" และมีเสียงแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าที่กำหนด คือ 32°C
- หน้าจอแสดงข้อความ "Hi" และมีเสียงแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าที่กำหนด คือ 43°C
- มีสัญลักษณ์แจ้งเตือนแบตเตอรี่อ่อน
- เครื่องจะปิดอัตโนมัติหลังการใช้งานใน 10 ± 1 วินาที
- ใช้ถ่าน Alkaline ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน

3. เครื่องวัดอุณหภูมิ Beurer รุ่น FT 65
- มีโหมดการวัด 3 รูปแบบ หู, หน้าผาก,วัตถุ
- ไฟแสดงสถานะอุณหภูมิ 2 สี
- บันทึกค่าการวัดได้ 10 ค่าล่าสุด
- สามารถแสดงผลได้ทั้ง"C,F
- จอแสดงผล LCD

4. เครื่องวัดอุณหภูมิ OMRON รุ่น TH-839S
- ระยะเวลาในการวัด : 1 วินาที
- การแสดงผลอุณหภูมิ : เลือกแบบ °C / °F ได้
- ช่วงการวัด 34.0°C(93.2°F) ถึง 42.2°C (108.0°F)
- หน่วยความจำบันทึกได้ 9 ครั้ง
- ขนาดภายนอก: 39(ก) x 151(ส) x 54(ล) มม.

5. เครื่องวัดอุณหภูมิ ALLWELL รุ่น E122
- ค่าถูกต้อง แม่นยำ เพราะมีระบบ high precision sensor
- เครื่องมีระยะวัด 1 - 5 ซม. ทำให้ได้ค่าที่ถูกต้องเพราะตำแหน่งการวัดใกล้กับผิวมากที่สุด
- เครื่องมีความเสถียรสูง สามารถวัดได้ต่อเนื่องมากกว่า 200 ครั้ง โดยไม่ errorและให้ค่าแม่นยำ
- เครื่องสามารถวัดได้ดีที่อุณหภูมิโดยรอบที่ 15 - 40องศา
- มีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการถือใช้งานเป็นระยะเวลานาน

6. เครื่องวัดอุณหภูมิ GLOWY (ET 201)
- เทอร์โมมิเตอร์แบบ 3 in 1 โดยสามารถวัดอุณหภูมิทั้งทางหน้าผาก
- ใช้หลักการวัดรังสีอินฟราเรดในการวัดค่าอุณหภูมิ
- ตรวจวัดอุณหภูมิและแสดงผลภายใน 3 วินาที
- ช่วยแปลผลอุณหภูมิที่วัดได้ให้เข้าใจได้ โดยแสดงผลผ่านไอคอนและสีของหน้าจอ
- แสดงผลบนจอ LCD เรืองแสงขนาดใหญ่ อ่านได้แม้ในที่มืด

7. เครื่องวัดอุณหภูมิ ไมโครไลฟ์ รุ่น NC 150 BT
- การป้องกันเสียงรบกวนแบบ Adaptive noise cancelling
- พลังของไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 40 มม. ที่ถูกออกแบบพิเศษจาก Soundcore
- เปิดโหมด ANC ก็ฟังได้นานถึง 40 ชั่วโมง และยังฟังต่อเนื่องได้มากถึง 55 ชั่วโมงเมื่อปิดโหมด AND
- ที่ครอบหูที่หมุนได้ถึง 8° พร้อมดีไซน์สุดหรู
- รองรับ LDAC พร้อมคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Wireless

8. เครื่องวัดอุณหภูมิ Simple Health
- การวัดด้วยอินฟราเรด พร้อมเซ็นเซอร์คู่ เพื่อให้แน่ใจว่าการวัดมีความแม่นยำ
- เหมาะสำหรับคนทุกวัย รวมทั้งทารก เด็ก และผู้ใหญ่
- ใช้เวลาเพียง ≤1 วินาทีในการรับผลการวัดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว
- สามารถเก็บข้อมูลการวัดได้ 10 ครั้ง ทำให้ดูบันทึกการวัดย้อนหลังได้ง่ายทุกเมื่อ
- จอ LCD แสดงข้อมูลการวัดได้ชัดเจนและรองรับการสลับระหว่างหน่วยอุณหภูมิ °C และ °F

9. เครื่องวัดอุณหภูมิ Bluedot รุ่น B-FT102 BT
- ระยะเวลาวัด 1 วินาที
- หน่วยที่วัด ํC/ ํF
- โหมดวัดทางหู วัดทางหน้าผาก วัดวัตถุ
- ความแม่นยำ : 35.0C~42.0C,+0.2C(+0.4F)
- ขนาด 140 x 36 x 57 มม.

10. เครื่องวัดอุณหภูมิ Cofoe 4 in 1 Ea & Forehead
- ใช้เซ็นเซอร์ที่นำเข้าจากเยอรมนีซึ่งสามารถรับรังสีอินฟราเรดที่ร่างกายมนุษย์ปล่อยออกมาได้
- หน้าจอ LCD แบ็คไลท์: มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน
- หน้าจอขนาดใหญ่และตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อให้อ่านได้ง่าย
- อุณหภูมิร่างกาย ounce37.8℃ไฟแบ็คไลท์สีแดงจะเปิดขึ้น
- 37.3℃อุณหภูมิร่างกาย <37.8℃ไฟแบ็คไลท์สีน้ำเงินจะเปิดขึ้น
แบรนด์ดัง เครื่องวัดอุณหภูมิ ยอดนิยม




วิธีเลือกซื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
การเลือกซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิ (thermometer) ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน และสามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ต่อไปนี้คือปัจจัยที่ควรพิจารณา:
ประเภทของเครื่องวัดอุณหภูมิ
ดิจิตอล (Digital Thermometer): ใช้งานง่าย แม่นยำ มีแสดงผลในรูปแบบตัวเลข เหมาะสำหรับวัดอุณหภูมิในร่างกาย
อินฟราเรด (Infrared Thermometer): ใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดในการวัดอุณหภูมิ โดยไม่ต้องสัมผัสกับวัตถุ เหมาะสำหรับวัดอุณหภูมิของสิ่งของหรือร่างกาย
เทอร์โมมิเตอร์แก้ว (Glass Thermometer): แบบดั้งเดิม ใช้ปรอทในการวัดอุณหภูมิ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการแตกหักและการปล่อยสารพิษจากปรอท
เทอร์โมมิเตอร์หู (Ear Thermometer): ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิภายในหู ให้ผลลัพธ์เร็ว เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
เทอร์โมมิเตอร์แบบเต้ารูป (Strip Thermometer): ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิภายนอกผิวหนัง โดยการใช้แถบเปลี่ยนสี
ช่วงอุณหภูมิที่สามารถวัดได้ ควรเลือกเครื่องวัดที่มีช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สำหรับการวัดอุณหภูมิร่างกายควรเลือกเครื่องที่มีช่วงการวัดระหว่าง 32-42 องศาเซลเซียส เป็นต้น
ความเร็วในการวัด เครื่องวัดอุณหภูมิที่สามารถให้ผลลัพธ์รวดเร็วจะช่วยให้สะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการวัดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
ความแม่นยำและความเที่ยงตรง เลือกเครื่องที่มีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำ ค่าความผิดพลาดไม่ควรเกิน 0.1-0.3 องศาเซลเซียส เพื่อให้ผลการวัดมีความแม่นยำ
คุณสมบัติพิเศษ
ฟังก์ชันการเตือนเสียง (Buzzer): เพื่อให้ผู้ใช้ทราบเมื่อการวัดอุณหภูมิเสร็จสมบูรณ์
การเก็บข้อมูล: สามารถเก็บค่าผลการวัดได้สำหรับการอ้างอิงในภายหลัง
การใช้งานที่ง่ายและสะดวก: ควรเลือกที่มีหน้าจอแสดงผลที่อ่านง่าย เช่น หน้าจอ LED หรือ LCD ขนาดใหญ่
ขนาดและการพกพา หากต้องการเครื่องวัดอุณหภูมิที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมและน้ำหนักเบา
ความปลอดภัยและความทนทาน เครื่องวัดอุณหภูมิที่ใช้วัสดุทนทาน และไม่มีสารที่เป็นอันตราย เช่น ปรอท ควรได้รับการรับรองความปลอดภัย
ราคา เครื่องวัดอุณหภูมิแต่ละประเภทมีราคาที่แตกต่างกัน ควรเลือกเครื่องที่มีราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพและฟังก์ชันที่ต้องการ
การเลือกเครื่องวัดอุณหภูมิที่ดีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ และสะดวกในการใช้งาน